Xanthelasma ผื่นไขมันที่เปลือกตา มาเพราะโคเลสเตอรอล!

เหนื่อยจิต

ไข้หว่งไข้หวัดไม่เป็นกะเค้า ไอ้ชื่อโรคยากๆ เนี่ยมากันจัง แต่จะไปโทษโรคอย่างเดียวก็ไม่ได้ มันก็ตัวเรานี่แหละที่ทำให้เกิดโรค แค่ไม่เคยรู้จักคนที่เป็นโรคนี้ ไม่เคยรู้เรื่องว่ามันมีโรคแบบนี้ ไม่เคยรู้เลยว่าเกิดอะไร
สวัสดี Xanthelasma (ซานธีลาสม่า) เธอมาเพราะโคเลสเตอรอล

เมื่อปลายปี 2011 ชั้นสังเกตว่าบริเวณใต้ตาขวา มันมีตุ่มนูนๆ บวมขึ้น ซึ่งตัวเองก็ไม่รู้ว่าคืออะไร และก็ไม่สนใจ พอเมื่อปีใหม่ มันก็นูนๆ อีกเหนือตาซ้าย ชักไม่ได้การละนะ ทำไมมันขึ้นอีก แต่ด้วยการทำงานทำให้ไม่มีเวลาไปเช็คอะไรเลย จนมันเริ่มนูนใหญ่ขึ้น ชิบเป๋ง มะเร็งหรือเปล่า?! วิ่งโร่ไปหาหมอ ที่แรกคิดว่าน่าจะเชี่ยวชาญที่สุดก็คือโรงพยาบาลผิวหนังอโศก ยังไงๆ มันต้องเกี่ยวอะไรกับผิวหนังแน่ๆ ปกติชั้นเองก็เป็นคนแพ้นั่นนี่อยู่แล้ว ก็คิดว่าอาจจะแพ้อะไรสักอย่าง ยา หรือโลชั่น หรืออะไร หมอก็บอกว่าเป็นผื่นไขมัน แต่ไม่ได้อธิบายอะไรละเอียด และบอกว่าต้องเลเซอร์ มีสองจุด หมอจะคิดค่าเปิดเครื่องสองครั้ง และค่าหมอ รวมๆ หมอก็บอกราคามาเลยว่า 4,000 บาท ถ้าจำไม่ผิด ใจก็คิดว่าเออ ก็คงต้องจ่ายก็มันเป็นนี่หว่า แต่..ยังไม่เลเซอร์วันนี้ได้ไหม ขอไปทำใจก่อน คือก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้เลยว่ามันจะเลเซอร์อะไรได้เร็วๆ เสร็จๆ เเผลตกสะเก็ดกันง่ายๆ …. ก็เลยบอกหมอว่าเดี๋ยวอาทิตย์หน้ามาละกัน จะได้มีเวลาพักฟื้น หมอบอกว่าได้เลย … หมอที่นี่ไม่ได้อธิบายอะไรมาก คุยกันไม่ถึง 5 นาที ไอ้เราก็เลยไม่รู้รายละเอียด คิดว่าคงอ้วนเลยมีผื่นไขมันขึ้น หมอก็ตรวจรีบๆ เร็วๆ ก็คนไข้เยอะอ่ะนะ รอตั้งนาน ตรวจแค่ห้านาที เดินออกจากโรงพยาบาลมา หมอคิดว่าหมอไปเท่าไหร่จำไม่ได้ แต่มีเสียตังอ่ะ แค่ห้านาทีนั่นแหละ เราก็เกิดฉุกคิด ทำไมมันแหม่งๆ ขอไปตรวจอีกที่ดีกว่า ไม่ควรฟังที่เดียว ก็เลยไปโรงพยาบาลประจำ “สมิติเวช สุขุมวิท” เดินเข้าไปแบบดุ่มๆ ไม่รู้ว่าต้องหาหมอคนไหน ใครเชี่ยวชาญการเลเซอร์หรืออะไรหรอก แค่อยากรู้ว่า “กรูเป็นอะไร”

เข้าไปเคาท์เตอร์​ พยาบาลก็แนะนำหมอที่เข้าเวรให้ ก็คือคุณหมอวราภรณ์ คุณหมอสวยและยังสาว และพูดจานุ่มนวลเหมาะเป็นหมอผิวมากกกก หมอตรวจแล้วก็บอกเลยว่านี่มัน “Xanthelasma” นี่คะ โคเลสเตอรอลเยอะไหม แล้วก็อธิบายรายละเอียดของโรคว่า

Xanthelasma เกิดจากการสะสมของไขมันในชั้นผิวหนัง หรือคนที่มีความผิดปกติของไขมันในเส้นเลือด หรือคนที่มีโคเลสเตอรอลสูงนั่นเอง ส่วนใหญ่มันจะขึ้นที่รอบๆ ดวงตานี่แหละทั้งเปลือกตาบนและตาล่าง มันจะขึ้นมาเป็นก้อนนูนๆ สีเหลืองๆ ซึ่งก็คือไขมัน บางคนก็เล็ก บางคนก็ใหญ่ บางคนก็นุ่มๆ บางคนก็แข็งๆ และจะค่อยๆ ใหญ่ขึ้นถ้าไม่รักษา แต่ที่ฮาคือมันมักจะเกิดกับคนที่อายุ 40 ปีขึ้นไป แต่ถ้าต่ำกว่านั้นเนี่ยแปลว่าโคเลสเตอรอลสูงมะว้าก (ชั้นเอง 347 บ้าไปละ) หมอก็แทบจะตีมือจะได้เจ็บจะได้ไม่หยิบช้อนจะได้ไม่กินอะไรมันๆ มั่วๆ ซั่วๆ ถ้าเป็นขึ้นมามันจะไม่เจ็บ และมันไม่ใช่เนื้อร้าย แต่ว่ามันจะทำให้หน้าตาน่าเกลียด ก็คิดดูดิ อยู่ดีๆ มีก้อนนูนๆ เหลืองๆ บนหน้า ไอ้ที่ไม่สวยอยู่แล้วคงยิ่งขี้เหร่เข้าไปใหญ่ วัยป้าเซ็ง หมอบอกว่ารักษาด้วยการเลเซอร์ ซึ่งพอไปศึกษาเพิ่มเติม เขาบอกว่าต้องกำจัดด้วยความเย็น หรือกรด หรือพวกเครื่องจี้ และก็เครื่องเลเซอร์ ถ้าหมอไม่เก่ง อาจทำให้เป็นแผลเป็นน่าเกลียดได้ และไม่ใช่ว่าทำแล้วจะหายเลยนะ มันเป็นซ้ำได้เสมอถ้ายังไม่ดูแลตัวเอง เพราะฉะนั้นสิ่งที่ดีคือการควบคุมโคเลสเตอรอลเหอะ ขอร้อง (บอกตัวเอง) กลับมาที่คุณหมอวราภรณ์ หมอบอกว่าต้องเลเซอร์ จะทำเลยไหม ก็เลยบอกว่ายังไม่พร้อมวันนี้ขอเตรียมตัวก่อนนะคะ หมอเลยนัดอาทิตย์ถัดไป หลังจากหมออธิบายอย่างละเอียดให้เข้าใจถึงโรค และบอกว่าไปควบคุมโคเลสเตอรอลด้วยนะ เพราะไม่งั้นมันจะเป็นขึ้นมาอีก ก็ตัดสินใจว่า ชั้นจะเลเซอร์มันที่นี่แหละ โรงพยาบาลผิวหนังอโศกไม่เห็นบอกอะไรละเอียดเลย หรือจะเป็นเพราะหมอคนนั้นก็ไม่รู้ รู้สึกว่าทำเอาตังมากกว่าอยากรักษาคน สวัสดี ไม่ไปละ มารักษาที่นี่ดีกว่า แล้วหมอก็บอกว่า ครั้งนี้หมอไม่คิดค่าแพทย์นะคะ คือไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย เจ๋งป่ะล่า!? ไม่รักษาก็ยังไม่คิดตัง รพ.ผิวหนังอโศกนี่มันโขลกสับจริงๆ แค่คุยห้านาทีก็คิดตังละ เฮ้อ …​

เลเซอร์ครั้งที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์
อาทิตย์ถัดไป ชั้นก็เลยไปเลเซอร์ กลัวจริงๆ เพราะไม่เคย หารู้ไม่ว่ามันไม่เจ็บเลย! เริ่มต้นด้วยการแปะยาชา มันจะเป็นครีมยาชา ป้ายไปที่บริเวณที่เป็น และหมอให้นอนรอประมาณ 30-45 นาที แล้วก็ไปเลเซอร์ มันก็รู้สึกจี๊ดๆ อ่ะนะ เวลาลงไปลึกๆ ก็เจ็บบ้างแต่น้อยมากๆ หมอทำล่างตาขวา ตำแหน่งนี้เล็ก และเหนือตาซ้าย อันนี้ใหญ่ แปะพลาสเตอร์ใสมาบอกว่าอย่าแกะออกจนกว่าจะ 3 วัน และพอแกะแล้วให้ทายากันติดเชื้อ อาทิตย์ถัดไปให้ทายาลบรอยแผลเป็น ชั้นก็ทำตามอย่างเคร่งครัด หมอบอกว่าห้ามโดนแดด เล่นคอมไม่ได้ อะไรไม่ได้ ก็กลัวหัวหดไปหมด กลัวมันดำ มันด่าง จนครบสามวัน เปิดพลาสเตอร์ออก เออ มันตกสะเก็ดแฮะ ไม่ต้องแกะด้วย มันหลุดเองเลย แผลแห้ง และใต้ตาขวา หายดีละ แต่เหนือตาซ้าย หมอไม่สามารถเอาออกให้หมดในครั้งเดียวได้ เพราะกลัวเราเป็นแผลเป็นลึก มันจะไม่สวย ก็เลยค่อยๆ ทำยังไม่หมด หมอก็คิดราคาแบบประหยัดมากเพราะทำไม่หมด เจ๋งอีกละ เค้าใช้เครื่องเลเซอร์อะไรไม่รู้ ไม่ได้ถาม พอหนึ่งอาทิตย์ผ่านไป มันก็แห้งและเหมือนปกติ มีรอยๆ เหมือนจะเป็นแผลเป็นเล็กน้อย แต่ว่าหายไป เหนือตาซ้ายที่ใหญ่ๆ และยังเอาออกไม่หมด ก็ดีขึ้น เหมือนไม่ได้เป็นอะไร มันคงซ่อนอยู่

ชั้นมีนัดกับหมออีกสองเดือนถัดไป เพราะหมอบอกว่าเลเซอร์ซ้ำเลยไม่ดี ควรรอก่อน ก็เลยยังไม่ทำซ้ำ แต่พอครบสองเดือน พยาบาลโทรมาเลื่อน พอถึงเวลา ชั้นก็โทรไปเลื่อน และอีกครั้งพยาบาลโทรมาเลื่อนอีก ครั้งที่สี่ชั้นก็เลื่อนเองอีก ก็เลย เออ ไม่ต้องหาละ เพราะมันหายไปแล้ว แต่แล้วจู่ๆ เดือนกรกฎาคม มันก็นูนขึ้นมาอีก และค่อยๆ ใหญ่ขึ้น ใต้ตาขวาจุดเล็กๆ และเหนือตาซ้ายอันเดิมมันใหญ่ขึ้นมาอีก ก็เลยโทรนัดหมอ ปรากฎว่าคิวหมอว่างอีกสามอาทิตย์ถัดไปค่า?! แม่เจ้า คนเป็นโรคผิวกันเยอะยังงี้เลยหรือนี่ ใจก็อยากเปลี่ยนหมอ แต่ก็ไม่กล้าเปลี่ยน เพราะหมอเดิมก็รักษาดีอยู่แล้ว แต่ก็กลัว จนถึงวันนัด ก็คิดว่าคงทำทุกอย่างแบบปกติ เพราะพยาบาลบอกว่ามาเลยมาแปะยาชาได้เลยถ้าจะเลเซอร์ที่ตา เราก็ไป

เลเซอร์ครั้งที่ 2 เดือนกรกฎาคม
ไปถึงก็คิดว่าเหมือนเดิม เลยไม่ได้เจอหมอก่อน บอกพยาบาลว่ามาทำอะไร พยาบาลก็แปะยาชาให้ รอประมาณสี่สิบนาที ก็มาปลุกไปเลเซอร์ ไปนั่งรอ พอหมอมาหมอบอกว่า อ้าว เลือกเครื่องนี้เหรอคะ …​เอ่อ ไม่ได้เลือกค่ะ พยาบาลจัดมา หมอบอกว่าหมอไม่ค่อยได้ใช้เครื่องนี้ จะเปลี่ยนไหม หรือจะลอง เราก็บอกยังไงก็ได้ หมอว่าใช้ได้ก็ใช้ ถ้ามันเลเซอร์ได้เหมือนเดิม หมอก็บอกว่า อิม..เอาเครื่องนี้ละกันลองดูนะคะ ก็เลเซอร์ไป ปรากฎว่าเลเซอร์แบบไม่มีแผล เพราะมันยิงเข้าไปสลายไขมันใต้ผิวหนัง หมอบอกว่าอีกสองอาทิตย์มาดูว่ามันยุบไหม สรุป ไม่รู้ว่าจะได้ผลไหม? หนูทดลอง?

เลเซอร์ครั้งที่ 3 เดือนสิงหาคม
สองอาทิตย์ผ่านไป ไปให้หมอดู มันไม่ยุบเลยค่ะ ไม่มีความหมายอะไรเลยที่ทำครั้งที่แล้ว (จะเปลี่ยนเครื่องทำไม) หมอเลยบอกว่างั้นทำแบบเดิม มาครั้งนี้หงุดหงิด เพราะพยาบาลโทรมาวันก่อนว่าคอนเฟิร์มนัดใช่ไหมคะ เราก็คอนเฟิร์มบ่ายสาม 45 แต่พอถึงวันจริงดันลืมว่าบ่ายสามเท่าไหร่ก็โทรไปตอนเช้า พยาบาลก็บอกว่าค่ะ 3.45pm แน่นอน ก็ไปถึงก่อนเวลา รอเกือบชั่วโมง เลยถามว่ารออะไร พยาบาลที่เคาท์เตอร์บอกว่า นัดไว้ห้าโมงนี่คะ ห้าโมง?! เลยเฉ่งไปยกนึง พยาบาลไม่เข้ามาคุยด้วยเลย เค้าก็กุลีกุจอกันใหญ่ ตกใจมั้งเจอคนไข้วีน คนอื่นคงใจดี ก็เอ้อระเหย เรื่อยเฉื่อย เห็นว่างเม้ากัน แล้วดิชั้นล่ะคะ จะลงเวลานัดทำไมถ้าเกิดไม่ตรงเวลาหรือลงเวลาผิด แล้วมีการคอนเฟิร์มกันสองสามรอบ ยังมาบอกว่าเขียนไว้ห้าโมง เพี้ยนหรือเปล่าฮ้า?! สักแป๊บก็มาเชิญไปแปะยาชา ..​​อืม ซะที
เลเซอร์คราวนี้ หมอมาคุยก่อนทำ บอกว่าหมอไม่อยากทำจริงๆ เลย เพราะกลัวเป็นแผลเป็นใหญ่ น่าจะกลัวเสียมือ.. เราก็คิดในใจ แปลว่าอะไร ไม่อยากทำคือก็จะไม่ทำหรือว่าจะยังทำ? หมอก็บอกว่า หมอจะทำแต่ไม่หมดเหมือนเดิมนะ แต่คราวที่แล้วที่ไม่ได้ผลหมอจะไม่คิดค่ารักษา อันนี้แล้วแต่หมอค่ะ แต่ขอบคุณนะคะ … คือหมอก็ใจดี เราก็เชื่อหมอน่ะแหละ แต่หมอมาสารภาพว่าไม่อยากทำอันนี้เราก็เหวอเหมือนกันนะ ถ้าหมอไม่อยากแล้วหมอไหนจะอยากแล้วจะรักษายังไง? แต่สุดท้ายคือหมอก็ทำให้น่ะแหละ … คราวนี้เจ็บ พอทำเสร็จหมอให้ดูกระจก ชั้นก็ยังเห็นเหลืองๆ ใหญ่ๆ โคตรเยอะเลย แต่ไม่คิดว่ามันจะใช่เพราะหมอบอกว่าก็ยังเหลืออยู่นะ แต่จุดแดงๆ คือเลือด ตรงนั้นไม่มีแล้ว ซึ่งมีจุดเเดงๆ นิดเดียวก็เลยงงว่าตรงไหนใช่ไม่ใช่ ถามแล้วหมอก็ตอบภาษาหมอ เราก็คิดว่าเออ หมอคงกล้าทำให้แค่นี้จริงๆ ไม่เป็นไร ปิดพลาสเตอร์ใสไปเหมือนเดิม ทำสองจุด จุดเล็กใต้ตาขวาแผลแห้งในสามวัน แต่ไอ้จุดใหญ่แผลมันเปียกตลอดเวลา ชั้นก็แบบ กลัวว่ะ ยังไงล่ะเนี่ย ติดเชื้อหรือเปล่า หรือว่าอะไร?

เลเซอร์ครั้งที่ 4 เดือนสิงหาคม วันที่ 23
วันนี้เลยโทรไปหาพยาบาล อยากเข้าไปเช็คแผลว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมมันยังแฉะ พยาบาลก็บอกว่าหมอไม่ว่างเลย หมอเราก็ไม่อยู่ เลยบอกว่าหมอไหนก็ได้ ช่วยตรวจให้หน่อย มันใกล้ตา มันอันตราย พยาบาลก็บอกว่าให้มาได้ พอไปถึง รออีกครึ่งชั่วโมง แล้วจะนัดเวลาทำซากอะไร อันนี้คือที่หงุดหงิดกับพยาบาลหน้าเคาท์เตอร์ตลอด … บอกว่าว่างหลังเที่ยงก็บอกว่ามาตอน 11 โมงได้ไหม เฮ้ย บอกว่าว่างหลังเที่ยง หงุดหงิดมากกกก แต่ก็ไปตรงเวลา แล้วก็ต้องรออยู่ดี สุดท้ายก็เรียกไปพบหมอ หมอคนใหม่ ตอนแรกถามเหมือนไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับชั้นดี แต่ชั้นแค่อยากรู้ว่าจะรักษายังไง ก็เหมือนจะเถียงกันไปมา สุดท้ายจริงๆ แล้วคือ หมอไม่อยากทำอะไรบุ่มบ่ามเพราะไม่ใช่เจ้าของไข้ แต่หมอไม่อยากบอกว่าทำความสะอาดยังไง เพราะหมอเห็นเลยว่ามันเหลือเยอะมาก และควรเลเซอร์อีกด่วนๆ จะให้รอหมอเจ้าของไข้ ชั้นก็จะบินไปเยอรมันอยู่แล้ว หมอไม่ได้เข้าเวรทุกวัน ก็มาไม่ได้ … จะกลับไปแบบนี้หมอใหม่ก็ไม่อยากปล่อยไว้ หมอใหม่บอกว่าถ้าเป็นหมอ หมอจะทำให้หมดไปเลย อันนี้เหลืออีกเยอะมาก และที่ไม่อยากทำต่อเพราะเดี๋ยวถ้าไม่ดี คนไข้อาจจะบอกว่าเป็นเพราะหมอ แต่เราชอบหมอคนนี้นะ แกห้าวดี แกบอกว่าใจเย็นๆ เลยบอกว่าไม่ได้หงุดหงิดหมอนะ หงุดหงิดพยาบาลแต่เช้า พอมาถึงหมอทำท่าเหมือนไม่อยากรักษาอีก มันหงุดหงิดไง หมอบอกว่าไมไ่ด้ไม่อยากรักษาแต่อยากรู้ว่าควรทำมั้ย หมอเลยโทรหาหมอเรา หมอเราก็แนะนำวิธีรักษาเลย จริงๆ มาเพื่อแค่นี้แหละ เพื่อรู้วิธีดูแลแผล แต่สุดท้ายหมอใหม่ก็บอกว่าอยากรู้ว่าจะให้ทำให้หมดเลยไหม หมอเราก็แล้วแต่เรา เราเลยบอกว่า ทำให้หมดไปเลยค่ะ เพราะหมอใหม่บอกว่าแผลไม่ใหญ่หรอกนะ เราเลยทำเลย หมอเลยจัดคิวแทรกให้เลย โดยบอกว่ามันมีค่าใช้จ่ายนะ โอเคไหม เราก็บอกว่าโอเคค่ะ คือหมอคงกลัวเราวีน ไม่วีนค่ะ อันนี้ทราบค่ะ หมอเลยบอกว่ารอแป๊บนึงนะ หมอมีคิวต้องเลเซอร์คนอื่น หมอก็กลัวเราไปโวยวายอีกน่ะแหละวิ่งไปมาขาขวิดเลย แล้วเราก็ไปเลเซอร์ โดยหมอบอกว่าแผลมันสด แปะยาชาไม่ได้ ต้องฉีดยาชา แม่เจ้า?!!!! อะไรนะ?!!!!! ฉีดยาชาตรงตา เปลือกตา เชด โคตรกลัวเลย เคยฉีดมาแล้วตอนทำตากุ้งยิง ก็สุดๆ แล้วนะ นี่แบบ … จะเป็นลม

หมอเข้ามาแบบเร็วด่วน ทำเองดูแลเองคนเดียวเพราะผู้ช่วยอยู่อีกห้องกับอีกคนไข้ มาฉีดยาชา สามเข็ม เจ็บสาดดดดดดดดด แล้วก็บอกว่าเดี๋ยวมานะ มีเลเซอร์อีกคน โอ้ยๆๆๆๆ เลยถามว่าหมอกลับมามันยังชาอยู่ใช่ไหม หมอหัวเราะบอกว่าชาๆ ฉีดไว้สี่ชั่วโมงแน่ะ แล้วหมอก็ทิ้งชั้นไป ประมาณ 15 นาทีหมอมา แล้วก็ลงมือเลเซอร์​ แต่เออ การฉีดยาชานี่มันดีนะ เพราะมันไม่เจ็บตอนเลเซอร์เลยแม้แต่น้อย หมอทำไปเรื่อยๆ ได้กลิ่นเหม็นคละคลุ้ง สยอง หลับตาปี๋ แล้วหมอก็บอกว่า เสร็จแล้วนะ หมดละ แต่หมออยากดูแผลอีก ก็คงเป็นตอนหลังชั้นกลับมาน่ะแหละ เพราะจะไปอังคารหน้าแล้ว หมอไม่ให้ปิดแผล ทำซะเหวอะแต่ไม่ยอมปิดแผลให้ เห็นหน้าแล้วโคตรสยอง …. เลือดเกรอะกรังบริเวณนั้น เหนือตา มองตาคุยกันยังไงก็ต้องเห็นอ่ะ หมอบอกว่าไม่ต้องกลัวว่าจะแฉะนะ เพราะหมอเลเซอร์เคลือบให้แล้ว ชั้นก็คิดในใจ แล้วไมหมอเดิมไม่เคลือบให้อ่ะคราวที่แล้ว มันเลยแฉะอ่ะดิ … หมอใหม่บอกว่าสักอาทิตย์นึงน่าจะดีขึ้น ตอนนี้ตาเป็นยัยผีมาก โคตรน่ากลัวเลย

แต่มันก็อาจเป็นอีกได้ ถ้ายังกินบ้าๆ บอๆ แบบเดิมๆ อยู่อีก ชั้นล่ะโคตรสยอง แล้วขึ้นที่ไหนไม่ขึ้น มาขึ้นที่ตา ก็อยากเตือนทุกคนว่า..ควบคุมการกินให้ดีๆ นะ อย่าให้ต้องเกิดอะไรแบบนี้กับตัวเองนะ ชั้นคิดว่ามันน่าจะเป็นแผลเป็นนะ แต่ไม่รู้จะใหญ่หรือเล็ก เฮ้อ … เศร้า โคเลสเตอรอลที่รัก อย่ารักชั้นให้มากนักเลย ลดๆ ลงบ้างเถอะนะ สวัสดี

~ โดย โตเดี่ยว บน สิงหาคม 23, 2012.